นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวว่า ขณะนี้ความสูงของซากอาคาร ในโซน A และ D อยู่ที่ 9.78 เมตร ส่วนโซน B และ C ส่วนยอดซากอาคารที่สูงที่สุดอยู่ที่ 8.58 เมตร วานนี้ (21 เม.ย.68) ได้พบร่างที่สมบูรณ์ 2 ร่าง ที่โซน C และวันนี้ยังพบอีก 2 ร่าง บริเวณช่องบันไดเดียวกับเมื่อวาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ส่วนการขนซากอาคารออกจากพื้นที่ วานนี้ดำเนินการอยู่ที่ 221 เที่ยว ทำให้บริเวณหน้างานมีพื้นที่เพียงพอในการปฏิบัติงานได้สะดวก ซึ่งขณะนี้มีเครื่องจักรหนักอยู่บริเวณหน้างานกำลังปฏิบัติงานทั้งสิ้น 28 ตัว สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเพื่อให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ควบคุมรถเครื่องจักรหนัก โดยมีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร อาทิ สำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่อปพร. เขตบางแค และเขตบางบอน เข้ามาเสริมด้วย ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าจากซากอาคารที่ลดลงทำให้ภายในสิ้นเดือนนี้ จะสามารถเข้าถึงซากอาคารบริเวณชั้น 1 ได้ตามแผน
สำหรับปัญหาและอุปสรรค เรื่องอุณหภูมิความร้อนและฝนตก พบว่าไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากรถเครื่องจักรหนักนั้น ผู้ทำงานควบคุมจะอยู่ในห้องปรับอากาศในเวลาปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ประกอบกับมีการฉีดน้ำเพื่อควบคุมฝุ่น จึงทำให้อุณหภูมิโดยรอบซากอาคารลดลงด้วย
พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของการพิสูจน์หลักฐานอัตลักษณ์ผู้สูญหาย ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 50 ศพ และยังมีชิ้นส่วนอวัยวะอีกกว่า 100 ชิ้นส่วน แต่ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 37 ศพ และเมื่อวานนี้อีก 3 ศพ ส่วนวันนี้ มีมติในที่ประชุมว่าจะยืนยันอีก 5 ศพ ซึ่งมติที่ประชุมนั้น จะมีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมก็ต่อเมื่อพบชิ้นส่วนอวัยวะที่สำคัญที่ยืนยันว่าเสียชีวิตแน่นอน อาทิ ช่องอก สันหลัง
"แม้จะขาดชิ้นส่วนอวัยวะ เช่น มือหรือเท้า แต่ก็จะเป็นการยืนยันว่าเสียชีวิตแน่นอน และจะยืนยันปล่อยศพไป ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 49 ศพ ที่สามารถยืนยันได้ 99% ว่าเป็นผู้เสียชีวิต และสามารถยืนยันชื่อได้ทุกคน ซึ่งใกล้เคียงกับยอดของ สปภ.ที่กู้ร่างจากซากอาคารได้ 50 ศพ" พล.ต.ต.วาที ระบุ
ส่วนการเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณซากอาคาร สตง.นั้น จะเข้าไปเก็บตามรอบเวลาที่ ปภ.กำหนด ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อเก็บพยานหลักฐานและหาข้อเท็จจริง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งขณะนี้ยังได้หลักฐานไม่ครบ จึงอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้ทราบสาเหตุของอาคารถล่ม
