ไทย-กัมพูชา ลงนามความตกลง 7 ฉบับ นายกฯ รับเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ครม.ร่วมกัน

ข่าวทั่วไป Wednesday April 23, 2025 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทย-กัมพูชา ลงนามความตกลง 7 ฉบับ นายกฯ รับเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ครม.ร่วมกัน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 23-24 เม.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงจำนวน 7 ฉบับ ได้แก่

1. บันทึกความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท)

2. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงสิ่งแวดล้อมราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามแดน

3. หนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อปรับเปลี่ยนสาระสำคัญของความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา-ไทย

4. บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา

5. บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือเรื่องแรงงาน และการจัดทำข้อตกลงด้านการจ้างงานไทย-กัมพูชา

6. บันทึกการหารือการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการปรับปรุงถนนหมายเลข 57 (บ้านผักกาด-บ้านปรม จังหวัดไพลิน-ถนนหมายเลข 5 จังหวัดพระตะบอง) ราชอาณาจักรกัมพูชา

7. ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา และแถลงข่าวร่วมกัน

โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือในวันนี้เป็นไปอย่างเป็นกันเอง และสร้างสรรค์ ต่างแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะกระชับความร่วมมือบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน โดยได้หารือกันในประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. การยืนยันถึงความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม เพื่อให้ความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวก่อประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงการเปิดสถานกงสุลใหญ่ไทย ที่จังหวัดเสียมราฐ และการเปิดสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ที่จังหวัดสงขลา ในอนาคตอันใกล้

2. การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคง โดยต่างเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางทหารให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในทุกระดับ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และเสถียรภาพตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ

นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สำหรับความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างหน่วยงานตำรวจในการปราบปรามแก๊งหลอกลวงออนไลน์ และจะส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อขจัดเครือข่ายอาชญากรรมให้หมดจากพื้นที่ชายแดน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยมลพิษสิ่งแวดล้อมข้ามแดนในวันนี้ จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในการรับมือกับมลพิษฝุ่น PM2.5 ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล และการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยงานของทั้งสองประเทศ

3. การเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่ชายแดน โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการในพื้นที่ชายแดน ในโอกาสเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาอย่างเป็นทางการ รวมถึงจะเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ตลอดจนเร่งเจรจาความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนน เพื่อให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถข้ามแดนได้ รวมทั้งพัฒนาบริการขนส่งสินค้าข้ามแดนทางราง เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงสองประเทศ และในภูมิภาคต่อไป

4. การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันจาก 10,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 15,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2570 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณกัมพูชาที่สนับสนุนนักลงทุนไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9 ในกัมพูชา

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่จะประสานงานกันภายในกรอบอาเซียน เพื่อส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค รวมทั้งเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

5. การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนข้อริเริ่ม "หกประเทศ หนึ่งจุดหมายปลายทาง" ให้มีความคืบหน้า รวมทั้งจะปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการข้ามแดน เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางข้ามแดนเพื่อการท่องเที่ยว

6. การส่งเสริมให้มีการจ้างแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทยผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้แรงงานสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เหมาะสม

7. การเสริมสร้างมิตรภาพและความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งได้มีการลงนามในเอกสารเพื่อจัดตั้งศูนย์พัฒนาทักษะแรงงานที่ปูนพนม โดยจะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ตลอดทั้งปีนี้ เพื่อสะท้อนมิติต่าง ๆ ของมิตรภาพอันยาวนาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ