คลัง-ธปท.จับตาใกล้ชิดผลกระทบภาษีทรัมป์ จ่อดูแลสภาพคล่องผู้ส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 16, 2025 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แถลงผลประชุมร่วมกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. เพื่อหารือและรับฟังข้อมูลการเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือด้วย

โดยที่ประชุมได้พิจารณาผลที่จะเกิดขึ้น และสิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการ วันนี้จึงได้มาติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร เนื่องจากสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ดังนั้น สิ่งที่ไทยต้องดู คือ การปรับมาตรการเกี่ยวกับการค้า การนำเข้า-ส่งออก กติกาที่เปลี่ยนไป ที่วันนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และค่าเงิน ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่คาดเดาได้ลำบาก

นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้จึงต้องมานั่งพูดคุยกันว่าจะมีกรณีใดเกิดขึ้นกับประเทศไทยบ้าง เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะกระทบกับภาคธุรกิจและภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ส่งออก ดังนั้นจะต้องหามาตรการที่เหมาะสม และวางแนวทางการรับมือในกรณีร้ายแรง (Worst case) ไว้ด้วย เพราะอาจทำให้การส่งออกชะลอตัวลง และผู้ส่งออกมีปัญหาเงินทุนหมุนเวียน และหนี้ที่ครบกำหนดชำระ รวมถึงการนำเข้าสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเหล่านี้มีปัญหาที่ตรงกัน คือเรื่องสภาพคล่อง ดังนั้นวันนี้จึงยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะดำเนินมาตรการใด และคงต้องมอนิเตอร์ติดตามต่อไป

"วันนี้คงไม่มีใครบอกได้ว่าจะหยิบมาตรการไหนดี ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ในอดีตมีเยอะ แต่สิ่งที่เราจะทำ เราจะทำงานใกล้ชิดมากขึ้น แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และจะเจอกันบ่อยขึ้น เพื่อดูว่าเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป มีอะไรบ้างกระทบต่อตลาดเงิน ตลาดทุน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต้องดู เพื่อหามาตรการชัดเจน และมากำหนดร่วมกันที่จะแก้ไข" นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ธปท.จะติดตามสถานการณ์ต่อไปด้วย ทั้งเรื่องดอกเบี้ย อัตราการแลกเปลี่ยน และปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบในการเสนอมาตรการต่าง ๆ

สำหรับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้ นเป็นเรื่องที่ไม่ควรไปพูดถึง โดยทาง ธปท.จะต้องมอนิเตอร์ และจะมีการประชุมคณะกรรมการ กนง.ในวันที่ 30 เม.ย.นี้

ส่วนผลหารือระหว่างนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาอาเซียนนั้นจะไม่นำมาเจรจา เพราะการคุยรอบแรกคงไม่มีการพูดคุยถึงขนาดนั้น แต่ในอาเซียนด้วยกันคงจะมีการแลกเปลี่ยนร่วมกัน เพราะปัญหาของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เช่น สินค้าบางอย่างที่ส่งออกไปสหรัฐฯ แต่ส่งออกไปอาเซียนก่อนจะส่งไปสหรัฐฯ ต่อ จึงต้องดูเรื่องพวกนี้ด้วย และพูดคุยกันเพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมด ซึ่งต้องแก้ในส่วนของเราก่อน

นายพิชัย กล่าวว่า ความสนใจของสหรัฐฯ อยู่ที่เรื่อง non-tariff หรือมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ที่ไม่เอื้อต่อการนำเข้าและส่งออก ซึ่ง non-tariff เป็นเรื่องกว้าง แต่เรื่อง Tariff หรือภาษีศุลกากรเป็นเรื่องเล็ก เพราะเป็นไปตามกลไกอยู่แล้ว ฉะนั้นแต่ละประเทศต้องปรับไปตามนั้น และต้องมาดูแลแก้ไข ซึ่งจะมีการเชิญอีกหลายหน่วยงานมาพูดคุยเพิ่มเติม

สำหรับกำหนดการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ นั้น นายพิชัย ระบุว่า "ขอเตรียมตัวให้ชัด ๆ แล้วจะบอกอีกที"

https://www.youtube.com/watch?v=wO9cE39h0Z4


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ