
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตและภาวะการค้าไข่ไก่ ทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้หารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ และองค์กรผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างต่อเนื่อง พบว่า ปริมาณไข่ไก่ขณะนี้ออกสู่ตลาดประมาณ 44.52 ล้านฟอง/วัน เพียงพอต่อการบริโภคที่เฉลี่ยประมาณ 43.30 ล้านฟอง/วัน จึงไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนแต่อย่างใด
สำหรับการปรับราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ของสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จากเดิมฟองละ 3.20 บาท เป็นฟองละ 3.40 บาทนั้น สาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศร้อนจัดตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. ส่งผลให้แม่ไก่ให้ผลผลิตไข่น้อยลง และไข่มีขนาดเล็กลง โดยไข่ไก่ขนาดใหญ่ (เบอร์ 0-2) มีสัดส่วน 60% และไข่ไก่ขนาดเล็ก (เบอร์ 3-5) มีสัดส่วน 40% ซึ่งสภาพอากาศปกติ ไข่ไก่ขนาดใหญ่ (เบอร์ 0-2) มีสัดส่วน 70% และไข่ไก่ขนาดเล็ก (เบอร์ 3-5) มีสัดส่วน 30%

ดังนั้น จึงส่งผลให้รายได้ที่เกษตรกรได้รับจากการจำหน่ายไข่ไก่ลดลง นอกจากนี้ เกษตรกรยังต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตด้านการใช้น้ำ-ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนภายในฟาร์ม เพื่อลดผลกระทบจากอุณหภูมิสูง
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภค โดยจัดจำหน่ายไข่ไก่ราคาต่ำกว่าท้องตลาด ผ่านรถโมบายธงฟ้า และงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภูมิภาค เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยมั่นใจว่า การจำหน่ายไข่ไก่ราคาประหยัดแก่ผู้บริโภค จะเป็นช่องทางในการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคได้
ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้กำกับดูแลและติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบผู้ค้ารายใดมีพฤติกรรมจำหน่ายไข่ไก่ในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หากพบการกระทำผิดจะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ