นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สกาย ไอซีที [SKY] กล่าวว่า การได้รับความไว้วางใจจากทั้งสองหน่วยงานระดับประเทศ ได้แก่ กรมท่าอากาศยาน (DOA) และ บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] ทำให้ SKY ICT ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสนามบินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบัน SKY ได้พัฒนาและติดตั้งระบบ CUPPS ครอบคลุม 13 สนามบินทั่วประเทศ มูลค่าโครงการรวมกว่า 18,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ SKY ICT ได้พัฒนาและติดตั้งระบบ CUPPS ครอบคลุมทั้งสนามบินภายใต้การดูแลของกรมท่าอากาศยาน (DOA) จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ พิษณุโลก ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และกระบี่ รวมถึงสนามบินหลักของประเทศภายใต้การบริหารของ ทอท. (AOT) อีก 6 แห่ง ซึ่งได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ส่งผลให้ SKY เป็นบริษัทที่พัฒนาระบบให้กับสนามบินมากที่สุดในประเทศ
ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นว่า SKY ICT ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสนามบินทั่วไป แต่เป็น "ผู้นำที่ไร้คู่แข่ง" ในด้าน Aviation Technology ที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและสนามบินหลักของประเทศ การที่ SKY ICT ได้รับเลือกให้พัฒนาและติดตั้งระบบ CUPPS ในระดับประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่สามารถส่งมอบโซลูชันเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานสูง และตอบโจทย์การบริหารจัดการสนามบิน
ระบบ CUPPS ที่ SKY นำเสนอในสนามบินเหล่านี้ ครอบคลุมโซลูชันหลัก อาทิ CUTE (Common Use Terminal Equipment): ระบบออกตั๋วโดยสารที่เคาน์เตอร์ CUSS (Common Use Self-check in System): ระบบออกตั๋วโดยสารด้วยตัวเอง CUBD (Common Use Bag Drop): ระบบโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ PVS (Passenger Validation System): ระบบคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าเกต SBG (Self-Boarding Gate): ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ
การมีระบบเหล่านี้ทำให้สนามบินในประเทศไทยสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลารอคอย ได้มาก และเพิ่มประสบการณ์ที่ราบรื่นในการเดินทาง ล่าสุด SKY ICT ยังได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการพัฒนาระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ซึ่งใช้การสแกนใบหน้าเพื่อพิสูจน์ตัวตนของผู้โดยสารก่อนเข้าสู่ระบบสนามบิน โดยเทคโนโลยีนี้สามารถยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยและลดขั้นตอนยุ่งยากในการเดินทาง ปัจจุบันระบบ Biometric นี้ได้เปิดให้บริการแล้วภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการในสนามบินไทยให้ทัดเทียมระดับสากล และรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงไฮซีซั่น เป็นฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
"การที่ SKY ได้พัฒนาระบบ CUPPS ครอบคลุม 13 สนามบินทั่วประเทศ และการนำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) มาใช้ในสนามบิน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการเป็นผู้นำด้าน Aviation Tech ที่แท้จริง เราไม่เพียงแค่ติดตั้งระบบ แต่ยังมุ่งเน้นให้การเดินทางของผู้โดยสารเป็นไปอย่างสะดวก ปลอดภัย และทันสมัยที่สุด เราไม่ได้ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อโชว์ศักยภาพ แต่เพื่อตอบโจทย์การเดินทางของผู้โดยสารให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งเป็นปีแห่ง Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และจำนวนนักเดินทางยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง SKY จึงยกระดับบริการเพื่อรองรับการเติบโตภาคการบินของไทยที่คาดว่าจะมากกว่า 10% ในปีนี้"
จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่าในไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคมมีนาคม) ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 9.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 1.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ AOT คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารทั้งปี 2568 อาจทะลุ 130 ล้านคน สะท้อนการฟื้นตัวเต็มรูปแบบของภาคการบินและการท่องเที่ยว
นอกจากความสำเร็จในการพัฒนาระบบสนามบิน SKY ยังมองการณ์ไกลไปถึงการนำ AI และ Big Data มาใช้ในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อสร้างสนามบินอัจฉริยะที่สามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อความต้องการของผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็ว การที่ SKY ICT ก้าวขึ้นเป็นผู้พัฒนาระบบใน 13 สนามบินทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับสนามบินไทย แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พร้อมแข่งขันในเวทีระดับโลก