KKP ลบ 7.17% ลดลง 4.00 บาท มาที่ 51.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 118.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.15 น. จากราคาเปิด 54.00 บาท ราคาสูงสุด 54.00 บาท ราคาต่ำสุด 51.50 บาท
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร [KKP] รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 มีกำไร 1,061.62 ล้านบาท ลดลง 29.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ 26.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ปัจจัยกดดันกำไรมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 15.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการชะลอตัวของสินเชื่อตามมาตรการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อไปในประเภทที่มีคุณภาพสูง ทำให้สินเชื่อในไตรมาส 1/68 ปรับตัวลง 1.4% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ซึ่งธนาคารยังคงเป็นไปตามแผนระมัดระวังการเติบโตของสินเชื่อภายใตภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบกับปัจจัยจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยตามการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ KKP ในไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้นมาที่ 4.4% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.2% มาจากกลุ่มสินเชื่อ Micro SMEs และสินเชื่อธุรกิจขนาดหลาง-เล็กที่ยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ NPL ของ KKP ปรับสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้านผลขาดทุนจากการขายรถยึดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องโดยปรับตัวลดลง 51.9% จากไตรมาส 1/67 โดยธนาคารยังคงความระมัดระวังในการพิจารณาตั้งสำรอง โดยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 1/68 มีจำนวน 1,104 ล้านบาท สำหรับอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต ณ สิ้นไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 131.0%
บล.กสิกรไทย มองผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ของ KKP ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ 6% โดยปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานหลักๆ ที่ทำให้กำไรลดลงค่อนข้างมากเกือบ 30% มาจากฝั่งรายได้ดอกเบี้ยและ NIM ปรับตัวลดลง ประกอบกับคุณภาพของสินทรัพย์มีแนวโน้มอ่อนแอขึ้น จากกลุ่มสินเชื่อ Micro SMEs และสินเชื่อ Commercial ขนาดกลาง-เล็ก ทำให้ NPL ขยับขึ้นมาที่ 4.4% จากไตรมาสก่อนที่ 4.2% รวมถึงกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง ทำให้กระทบต่อผลการดำเนินงานของ KKP ในไตรมาส 1/68 แต่ยังเห็นแนวโน้มที่ดีจากการขาดทุนรถยึดที่ลดลงเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมของผลการดำเนินงานได้บ้าง ทำให้ราคาหุ้นสะท้อนผลการดำเนินงานที่ออกมาที่ต่ำกว่าคาด