ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 400 จุด ส่งสัญญาณการปรับตัวลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาลดความขัดแย้งในการทำสงครามการค้าของสหรัฐ
ณ เวลา 18.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 414 จุด หรือ 1.05% สู่ระดับ 38,915 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 2.66% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.50% ส่วนดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 2.62% โดยดัชนีทั้ง 3 ต่างปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ในรอบ 4 สัปดาห์
นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะทำงาน ยังคงทำการศึกษาเกี่ยวกับการปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ออกจากตำแหน่ง
นายแฮสเซตต์ยืนยันเรื่องดังกล่าว หลังจากที่ปธน.ทรัมป์กล่าวหานายพาวเวลว่าเล่นการเมือง โดยการไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
"เฟดเป็นหนี้ชาวอเมริกันในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นี่เป็นประโยชน์เพียงอย่างเดียวของนายพาวเวล เขาทำให้ผมไม่มีความสุข และถ้าผมต้องการให้เขาออกไป เขาก็จะต้องออกไปอย่างรวดเร็ว คุณเชื่อผม" ปธน.ทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อนายพาวเวล หลังจากที่นายพาวเวลกล่าวว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์จะทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงาน
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2569
นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทกว่า 100 แห่งในดัชนี S&P 500 จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทในกลุ่ม Magnificent Seven เช่น อัลฟาเบท และเทสลา