สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนก.พ.
ดัชนี CPI เดือนมี.ค.ออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนยังคงเผชิญภาวะเงินฝืด
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนราคาสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ร่วงลง 2.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลง 2.3%
ทั้งนี้ ดัชนี PPI เดือนมี.ค.ของจีนลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 29 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืดที่จีนเผชิญเป็นเวลานาน
การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของจีนมีขึ้นในขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 125% จากเดิม 104% โดยมีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อตอบโต้จีนที่เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 84% จากเดิม 34% โดยมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.