กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นในวันนี้ (17 เม.ย.) ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในปีงบประมาณ 2567 อยู่ที่ 5.22 ล้านล้านเยน (3.66 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันปีที่ 4 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดนำเข้าซึ่งได้แรงหนุนจากการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้น ได้หักล้างยอดการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าโดยรวมในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.ปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.7% สู่ระดับ 114.16 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากการนำเข้าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) และสมาร์ตโฟน
ขณะที่การส่งออกในปีงบประมาณ 2567 เพิ่มขึ้น 5.9% แตะที่ระดับ 108.93 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันปีที่ 4 และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กระทรวงการคลังเริ่มทำการรวบรวมข้อมูลในปี 2522 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไปยังไต้หวันและการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มูลค่า 9.01 ล้านล้านเยน ลดลง 1.3% จากปีงบประมาณ 2566 ขณะเดียวกันญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 18.7% แตะระดับ 7.05 ล้านล้านเยน
ส่วนในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียว ญี่ปุ่นส่งออกเพิ่มขึ้น 3.9% แตะที่ระดับ 9.85 ล้านล้านเยน และนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.0% แตะที่ระดับ 9.30 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 5.441 แสนล้านเยน (3.84 พันล้านดอลลาร์)