
"ตาไม่เท่ากัน" เป็นความกังวลที่หลายคนประสบและมองหาวิธีแก้ไข เพราะดวงตาเป็นจุดเด่นบนใบหน้าที่ทุกคนมองเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องสวมหน้ากากอนามัย ดวงตาจึงยิ่งกลายเป็นส่วนสำคัญของการสื่อสารและบุคลิกภาพ หากคุณกำลังประสบปัญหาตาไม่เท่ากันและต้องการทราบถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหามาให้แล้ว
ตาไม่เท่ากันคืออะไร?ตาไม่เท่ากัน หรือที่เรียกว่า "ตาไม่สมมาตร" (Asymmetric Eyes) คือภาวะที่ดวงตาทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาด รูปทรง ระดับความสูงของชั้นตา หรือการทำงานของกล้ามเนื้อตา ซึ่งความจริงแล้ว ร่างกายมนุษย์ไม่ได้สมมาตรแบบสมบูรณ์แบบ อวัยวะทั้งซ้ายและขวาจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเสมอ อย่างไรก็ตาม หากความแตกต่างมีมากเกินไปจนสังเกตเห็นได้ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพได้
สาเหตุของตาไม่เท่ากันมีหลายประการ ทั้งจากกรรมพันธุ์ ความเสื่อมตามวัย อุบัติเหตุ หรือผลข้างเคียงจากการผ่าตัดที่ผ่านมา บางคนอาจมีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน ขณะที่บางคนมีปัญหากล้ามเนื้อตาทำงานไม่สมดุล หรือโครงสร้างกระดูกเบ้าตาที่ไม่เท่ากัน ซึ่งแต่ละสาเหตุจะต้องได้รับการแก้ไขด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
5 วิธีแก้ตาไม่เท่ากัน แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุดการเลือกวิธีแก้ไขตาไม่เท่ากันที่เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องพิจารณาจากสาเหตุที่แท้จริง และความรุนแรงของปัญหา รวมถึงความต้องการของแต่ละบุคคล มาดูกันว่า มีวิธีแก้ตาไม่เท่ากันแบบไหนบ้าง และวิธีไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
1. ทำศัลยกรรมตาสองชั้นการทำศัลยกรรมตาสองชั้นเป็นวิธีแก้ไขที่นิยมและได้ผลดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน เช่น ตาข้างหนึ่งเป็นชั้นเดียว อีกข้างเป็นสองชั้น หรือมีความสูงของชั้นตาที่ไม่เท่ากัน การผ่าตัดทำตาสองชั้นสามารถปรับแต่งชั้นตาทั้งสองข้างให้มีความสมดุลกันมากขึ้น โดยแพทย์จะพิจารณาว่าควรทำเพียงข้างเดียวหรือทำทั้งสองข้าง เพื่อให้ได้ชั้นตาที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
2. ผ่าตัดปรับรูปทรงตาสำหรับผู้ที่มีรูปทรงตาไม่เหมือนกัน เช่น หัวตาหรือหางตาไม่เท่ากัน การผ่าตัดปรับรูปทรงตาจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยแพทย์จะพิจารณาปรับแต่งให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าและความต้องการของผู้ป่วย เช่น ปรับให้หัวตายาวขึ้นในข้างที่สั้นกว่า หรือปรับหางตาให้กว้างขึ้นในข้างที่แคบกว่า ซึ่งจะช่วยให้สัดส่วนของตาทั้งสองข้างใกล้เคียงกันมากขึ้น การผ่าตัดปรับรูปทรงตานั้น เป็นศิลปะที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างมาก จึงควรเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน
3. ผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน เพราะกล้ามเนื้อยกเปลือกตาบน (Levator muscle) ที่ช่วยในการลืมตานั้นอาจทำงานไม่เท่ากันในแต่ละข้าง ทำให้ตาข้างหนึ่งเปิดได้น้อยกว่า ดูปรือ หรือมีอาการตาง่วงตลอดเวลา
การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะช่วยให้ตาเปิดได้กว้างขึ้น ทำให้ตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งทำได้หลายวิธี อย่างที่โคอาคลินิก (KOA Clinic) ก็จะมีเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 2 วิธี ได้แก่ การผ่าตัดโดยลงแผลด้านนอก (External ptosis correction) และการผ่าตัดจากด้านในเปลือกตา (Internal ptosis correction) ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามสภาพของกล้ามเนื้อตาและความต้องการของผู้ป่วย
4. ปรับระดับของคิ้วให้เท่ากันคิ้วมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปทรงและความสมมาตรของดวงตา เมื่อคิ้วทั้งสองข้างอยู่คนละระดับ จะส่งผลให้เห็นความแตกต่างของดวงตาได้ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณหนังตาบน ข้างที่คิ้วอยู่ต่ำกว่าจะทำให้หนังตาดูตกและปิดตาดำมากกว่า
การปรับระดับของคิ้วสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การผ่าตัดยกคิ้วในข้างที่ตกกว่า หรือการยกหางตาใต้คิ้ว ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาหนังตาตก เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยแพทย์จะผ่าตัดนำหนังตาส่วนที่หย่อนคล้อยออก พร้อมกับดึงหนังตาส่วนที่เหลือขึ้นไปเพื่อให้หนังตาตึง และล็อกหนังตาไว้ไม่ให้ตกลงมา
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด การฉีดโบทูลินัมท็อกซิน (โบท็อกซ์) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยยกคิ้วให้สูงขึ้นได้ชั่วคราว แต่จะต้องฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
5. ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงหน้าสำหรับผู้ที่มีความไม่สมมาตรของกระดูกโครงหน้า หรือมีปริมาณไขมันและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่ไม่เท่ากัน การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มส่วนที่บางหรือลึกกว่าได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ความแตกต่างไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัดที่ให้ผลชั่วคราว โดยการฉีดแต่ละครั้งจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่พร้อมหรือไม่ต้องการผ่าตัด และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
สรุปบทความจะเห็นได้ว่า ตาไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปและมีสาเหตุได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นชั้นตาไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อตาทำงานไม่สมดุล รูปทรงตาที่แตกต่างกัน ระดับคิ้วไม่เท่ากัน หรือโครงสร้างกระดูกเบ้าตาที่ไม่สมมาตร การเลือกวิธีแก้ตาไม่เท่ากันที่เหมาะสมจึงต้องพิจารณาจากสาเหตุที่แท้จริงและความรุนแรงของปัญหา เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง

