ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.50 อ่อนค่าจากช่วงเช้า สัปดาห์หน้าลุ้นความคืบหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 25, 2025 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.43 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก หลังมีข่าวการเจรจาเกี่ยว กับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้า โดยบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค และสถานการณ์ ราคาทองในตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.37 - 33.57 บาท/ดอลลาร์ ต่างชาติขายพันธบัตร 2,160 ล้านบาท

"บาทเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก หลังมีข่าวสหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้าในการเจรจา ราคาทองก็ปรับ ตัวลดลง บาทก็ปรับตัวอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.30 - 33.60 บาท/ดอลลาร์

ช่วงนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ตลาดติดตามความคืบหน้าการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.36 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.08 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1355 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1355 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,159.00 จุด เพิ่มขึ้น 12.14 จุด (+1.06%) มูลค่าซื้อขาย 33,148.95 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,860.38 ล้านบาท
  • รมว.คลัง เผยแนวคิดในการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาทเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของ
สหรัฐฯ นั้น สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับแรกคือสามารถตอบโจทย์การเพิ่มประสิทธิภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเวทีสัมมนา "ถอดรหัสนโยบายภาษีทรัมป์: โอกาสของการค้ายุคใหม่" ร่วมกับผู้แทนจากภาครัฐและ
เอกชนโดยชี้ว่า ภายใต้นโยบายภาษีสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจกลายเป็นโอกาสสำคัญของ
ไทยในการขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเป้าหมายที่ไทยสามารถเข้าไปทดแทน พร้อมเร่งเดินหน้าเจรจา FTA กับหลายประเทศ
ควบคู่มาตรการเข้มสกัดสินค้าด้อยคุณภาพและการสวมสิทธิ์นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
  • รมช.คลัง หารือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) โดยได้แลก
เปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาประเทศไทย และแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นสำคัญ โดย IFC ทำหน้าส่ง
เสริมภาคเอกชนในประเทศสมาชิกที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ทั้งทางด้านการเงิน เทคนิค และด้านการจัดการ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการลง
ทุนในประเทศกำลังพัฒนา
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิกจะชะลอตัวลงเหลือ
3.9% ในปี 2568 ซึ่งลดลง 0.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิม เนื่องจากผลกระทบจากความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลก
  • กรรมการจัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า IMF ยังคงมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการป้องกันวิกฤต
ดุลการชำระเงิน พร้อมรับฟังข้อกังวลจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อปรับนโยบายให้สอดคล้องกัน แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า IMF จะยังคงสนับสนุน
ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านการค้ากำลังทำให้ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมหยุดชะงัก
และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับเน้นย้ำว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และบรรดาประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจ
ขนาดใหญ่ควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเจรจาการค้ากับจีน หลังจากจีนออกมาปฏิเสธว่าไม่
มีการเจรจาข้อตกลงใด ๆ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทั้งหมดที่ใช้กับสินค้าจีน
  • คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศยกเลิกคำแนะนำสำหรับธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรม
ด้านคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้กฎระเบียบของเฟดสอดคล้องกับสถานการณ์ความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป และ
เพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระบบธนาคาร
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า BOJ จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเข้า
ใกล้กรอบเป้าหมายที่ 2% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่จะตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดจากการ
ขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปรับขึ้น
ดอกเบี้ยเพิ่มเติม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ