หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส (Financial Times) รายงานเมื่อวันพุธ (16 เม.ย.) ว่า อินเทล (Intel) บริษัทผลิตชิปของสหรัฐฯ ได้แจ้งลูกค้าในจีนว่า บริษัทจะต้องเริ่มขอใบอนุญาตในการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงบางรุ่น
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากที่อินวิเดีย (Nvidia) เตือนว่า บริษัทอาจเสียหายถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการจำกัดการส่งออกชิป AI รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับตลาดจีน ขณะเดียวกัน เอเอสเอ็มแอล (ASML) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องมือผลิตชิปจากเนเธอร์แลนด์ ก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในอนาคตด้วย
อินเทลแจ้งลูกค้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทจะต้องขอใบอนุญาตในการส่งออกชิปไปยังจีน หากเป็นชิปที่มีแบนด์วิดท์ของหน่วยความจำ DRam รวมตั้งแต่ 1,400 กิกะไบต์ต่อวินาที (GB/s) ขึ้นไป หรือมีแบนด์วิดท์ของการรับส่งข้อมูลเข้า-ออก (I/O) ตั้งแต่ 1,100 GB/s ขึ้นไป หรือถ้าค่ารวมของทั้งสองอย่างอยู่ที่ 1,700 GB/s ขึ้นไป
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ชิปรุ่น Gaudi ของอินเทล และรุ่น H20 ของอินวิเดียนั้น มีคุณสมบัติเกินกว่าข้อกำหนดเหล่านี้
ตลาดชิป AI กำลังชะลอตัวลงหลังจากเติบโตต่อเนื่องมานาน 2 ปี เนื่องจากแรงกดดันจากมาตรการภาษี และความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
ราคาหุ้น Intel ปิดตลาดวานนี้ (17 เม.ย.) ลดลง 1.56% หลังจากร่วงลงกว่า 3% เมื่อวันพุธ (16 เม.ย.) เช่นเดียวกับหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่มชิปที่เผชิญแรงกดดันจากสัญญาณล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้น กำลังทำให้อนาคตของบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์รายใหญ่มีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น