คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ความตึงเครียดด้านการค้าที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างในระบบการค้าโลกจะส่งผลให้ IMF ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจ แต่ก็คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่เผชิญภาวะถดถอย
กอร์เกียวากล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ กำลังถูกทดสอบด้วยการเริ่มระบบการค้าโลกใหม่ที่มีสาเหตุมาจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการตอบโต้จากจีนและสหภาพยุโรป (EU) เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งส่งผลให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าและความผันผวนที่รุนแรงในตลาดการเงินเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กอร์เกียวากล่าวว่า ภาวะชะงักงันจะก่อให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งใหม่ของ IMF จะรวมถึงการปรับลดการประเมินเศรษฐกิจครั้งสำคัญ อย่างไรก็ดี IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่ย่ำแย่จนถึงขั้นถดถอย
เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา IMF คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกไว้ที่ระดับ 3.3% ในปี 2568 และ 3.3% ในปี 2569 ขณะที่ IMF มีกำหนดเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ฉบับปรับปรุงในวันอังคารที่ 22 เม.ย.นี้ ในการประชุมฤดูใบไม้ผลิของของธนาคารโลกและ IMF ในสัปดาห์หน้า
กอร์เกียวาไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการคาดการณ์ครั้งใหม่ แต่เตือนว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานจะทำให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้น และการเริ่มระบบการค้าโลกใหม่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ กอร์เกียวาระบุว่า IMF ไม่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เนื่องจากภาษีศุลกากรอาจผลักดันให้ราคาผู้บริโภคและราคาผู้ผลิตปรับตัวสูงขึ้น หรืออาจทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่าย ซึ่งก็จะทำให้เงินเฟ้อลดลงได้ อย่างไรก็ตาม รายงานคาดการณ์ครั้งใหม่นี้ IMF อาจจะปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อของบางประเทศ