น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.), น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. และนางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร มาหารือ เพื่อติดตามความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68
โดยผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเข้าหารือว่า นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความต้องการที่จะให้รัฐบาลช่วยเหลือในการกู้ซากอาคาร สตง. ซึ่งได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่าขณะนี้ทุกอย่างยังเรียบร้อยดี หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีข้อติดขัดใด ๆ ซึ่ง กทม.พร้อมให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐานต่าง ๆ โดยยอมรับว่านายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วง และติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด
ส่วนกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือจาก กทม.เรื่องข้อมูลที่ใช้ในการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุตึกถล่มนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม. ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ช่วงสัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ กทม. จำเป็นต้องทำงานแข่งกับเวลาในการช่วยเหลือผู้ติดค้าง ซึ่งอาจเกิดการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน แต่ขณะนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทุกอย่างเรียบร้อยดี
โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองพิสูจน์หลักฐาน, กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้นในการดำเนินการสอบสวน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มีการประสานงานกันอย่างดี หากต้องการหลักฐานด้านใดจาก กทม. ก็พร้อมให้ความร่วมมือในทุกอย่าง
"การหาหลักฐานใช้เวลาไม่นาน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างานได้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความร่วมมือ และตอนนี้ สภาพหน้างานก็เป็นตึกถล่ม ไม่ทราบว่าชิ้นไหนเป็นชิ้นไหน จึงได้แนะนำว่าให้เข้าไปดูที่ไซด์งาน และดูผ่านโดรน ว่าต้องการหลักฐานชิ้นไหน ซึ่งสามารถเข้าไปหยิบให้ได้ทันที เพราะกระบวนการในการรื้อซาก เพื่อหาผู้ติดค้างอยู่จะทำอย่างต่อเนื่อง" ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ
ส่วนสภาพความสมบูรณ์ของหลักฐานหน้างานนั้น นายชัชชาติ ยอมรับว่า ดูยาก เพราะพังเสียหายไปแล้ว และไม่ทราบว่ามาจากชิ้นส่วนไหน ซึ่งอาจจะมีความลำบากในการสอบสวน แต่ทั้งนี้สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ เผื่อใช้ในอนาคต
นายชัชชาติ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 เม.ย.) ได้พบผนังปล่องลิฟท์แล้ว อยู่ที่จุด St1 และ St2 เป็นจุดปล่องซ้าย และปล่องขวา ถือเป็นจุดที่พยายามค้นหามานาน โดยเห็นจากป้ายบอกชั้นที่ 18 ที่ติดอยู่บันไดหนีไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปล่องลิฟท์ รวมถึงพบราวบันได ขั้นบันได และยังพบร่างผู้เสียชีวิตอีกหลายร่าง ซึ่งทำให้เห็นว่ากลุ่มใหญ่อยู่ตรง 2 จุดนี้ เข้าใจว่าเป็นทางที่ใช้หนีลง ดังนั้น ต้องโฟกัสจุดนี้ ซึ่งปล่องลิฟท์ไม่คงสภาพเดิม เป็นคอนกรีตที่พังหมดแล้ว แต่จากตำแหน่งอุปกรณ์ประกอบก็สามารถระบุได้
สำหรับการกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้ทำบัญชีรายชื่อไว้แล้ว ซึ่งผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยจะมีหน่วยคัดกรองอยู่ด้านหน้า ส่วนโยธาธิการและผังเมือง ก็สามารถเข้าพื้นที่ได้เฉพาะส่วนที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน
ส่วนจะสามารถกู้ซากอาคาร สตง.ได้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้หรือไม่นั้น ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการมีความก้าวหน้าเป็นอย่างดี ทุกคนมีความพยายาม และมีเป้าหมายท้าทายตัวเองตลอด ว่าจะต้องนำทุกคนกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องหยุดการปฏิบัติงานบ้าง เช่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็ต้องหยุดการทำงานของเครื่องจักรหนักไปถึง 5 ชั่วโมง หากรื้อซากอย่างเดียว ไม่กี่วันก็เสร็จ แต่หากรื้อด้วย และค้นหาผู้ที่ติดค้างอยู่ด้วย อาจจะมีปัญหาเรื่องเวลา แต่เชื่อว่าเป้าหมายในปลายเดือนนี้ ต้องเห็นความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก