ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าพุ่งแรงเกือบ 50 จุดตามตลาดต่างประเทศ ตอบรับความคลายกังวลงครามการค้าชั่วคราว หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐชะลอขึ้นภาษีกับประเทศที่ไม่ได้ตอบโต้ 90 วัน โดยมีแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ อาทิ KBANK , SCB, GULF, ADVANC, AOT เป็นต้น แต่ยังจับตาสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนต่อไป โดยเฉพาะการตอบโต้ของจีน
เมื่อเวลา 9.57 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,135.79 จุด เพิ่มขึ้น 47.51 จุด (+4.38%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พุ่งราว 50 จุด โมเมนตัมบวกสอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ ทั้งสหรัฐและเอเชียที่ปรับขึ้นทั้งหมด หลังประธานาธิบดีสหรัฐประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เป็นเวลา 90 วัน กับ 75 ประเทศ รวมไทย โดยให้ลดอัตราภาษีนำเข้าลงมาเหลือ 10% มีผลบังคับใช้ทันที ทำให้มีโอกาสในการเจรจาต่อรองได้มากขึ้น หนุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมาหนักก็กลับมาเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามท่าทีจากจีน หลังจากเมื่อวานนี้ตอบโต้แรงด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐสู่ 84% จากเดิม 34% ส่งผลให้สหรัฐโต้กลับทันทีด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวบวกกันราว 3-9% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยบวกกลาง ๆ ประมาณ 4% บางประเทศบวกแรงกว่า เนื่องจากบ้านเราออกมาตรการชั่วคราว 8-11 เม.ย.ทำให้เช้านี้มีหุ้นบางตัวติด Ceiling 15% แล้ว แต่ยังมองว่ามาตรการที่ออกมาเป็นเรื่องที่ดี เพราะการปรับ Ceiling/Floor ทำให้ราคาหุ้นไม่เหวี่ยงแรง และสนับสนุนให้ใช้ต่อไปในช่วงหลังจากวันที่ 11 เม.ย. โดยเฉพาะมาตรการห้ามขายชอร์ต มองว่าเป็นการช่วยป้องกันดาวน์ไซด์ของตลาด
แนวโน้มระยะถัดไปมอง SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ โดย Valuation ที่ระดับ 1,100 จุด ถูกมาก และราคาหุ้นต่าง ๆ ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ และยังรีบาวด์กลับไปไม่ถึงระดับก่อนถูกกระทบจากสงครามการค้า จึงมองว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก โดยให้กรอบแนวรับ 1,120 จุด และแนวต้าน 1,150 จุด