
นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจริญอุตสาหกรรม [CH] เปิดเผยว่า จากมาตรการนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยของสหรัฐฯภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายฝ่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทบางส่วน ที่มีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในช่วงที่สหรัฐระยะขยายเวลาระงับการเก็บภาษีต่างตอบแทนเป็นเวลา 90 วัน บริษัทได้เร่งดำเนินการส่งออกสินค้าที่มีออเดอร์ล่วงหน้าอยู่แล้วราว 80% ไปยังคู่ค้าในสหรัฐฯเพื่อลดผลกระทบด้านภาษีที่อาจเกิดขึ้น โดยสินค้าของบริษัทยังคงสามารถส่งออกได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต CH มีแนวทางดังนี้ คือ 1.ดำเนินการเจรจาเชิงลึกกับคู่ค้าเดิมในสหรัฐอเมริกา เพื่อหาทางออกร่วมกัน 2.มุ่งกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในโซนยุโรปซึ่งยังมีความต้องการบริโภคผลไม้แปรรูปคุณภาพสูงจากเอเชียอย่างต่อเนื่อง และมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง โดยตั้งงบการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ในปี 68 3.แผนระยะยาว คือ การลงทุนในประเทศที่เสียภาษีน้อยกว่า รวมถึงมีวัตถุดิบใกล้เคียงกับประเทศไทย 4.ลงทุนในวัตถุดิบระยะยาว เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกลง และ 5.รักษาสภาพคล่องกระแสเงินสด เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท รวมถึงเป็นเงินทุนสำรอง
"ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นความท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราเชื่อมั่นว่า CH เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและศักยภาพสูง สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ พร้อมเดินหน้าปรับตัวในทุกสถานการณ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของบริษัท และสร้างโอกาสใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นในเวทีโลก โดยปัจจุบันได้ขยายไปแล้วในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, อิตาลี, นอร์เวย์, ญี่ปุ่น, จีน, เลบานอน, อินเดีย และซาอุดิอาระเบีย มั่นใจว่าการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ จะสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ" นายศักดา กล่าว