ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (18 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนหลังความกังวลเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายลง ภายหลังการเจรจารอบแรกเมื่อต้นสัปดาห์ ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะเร่งหาข้อตกลงร่วมกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 34,730.28 จุด เพิ่มขึ้น 352.68 จุด หรือ +1.03%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดได้แก่ กลุ่มเภสัชภัณฑ์ กลุ่มขนส่งทางทะเล และกลุ่มเหมืองแร่
แม้ว่าในช่วงเปิดทำการซื้อขาย ดัชนีจะเผชิญกับแรงกดดันอยู่บ้างจากแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มชิป แต่ท้ายที่สุด ตลาดก็สามารถพลิกฟื้นกลับมายืนในแดนบวกได้สำเร็จ สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนว่า การเจรจาที่กำลังดำเนินไปอาจนำไปสู่การผ่อนปรนกำแพงภาษีที่สหรัฐฯ ตั้งไว้กับสินค้าจากญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ให้ความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดในครั้งนี้ยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการคลายความกังวลระยะสั้นที่ว่าปธน.ทรัมป์จะใช้ไม้แข็งในการเจรจา
"ตลาดโดยรวมยังคงมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงขายทำกำไร เว้นเสียแต่ว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางการส่งออกสินค้าญี่ปุ่นไปยังตลาดสหรัฐฯ จะหมดไป" คามิทานิกล่าว
นอกเหนือจากประเด็นการค้า อีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามาช่วยเสริมบรรยากาศการลงทุนในวันนี้ คือ ข่าวดีในกลุ่มเภสัชภัณฑ์ โดยเฉพาะหุ้นของบริษัท ชูไก ฟาร์มาซูติคอล (Chugai Pharmaceutical) ที่ราคาพุ่งทะยานขึ้นถึง 17.5% โบรกเกอร์ชี้ว่า แรงซื้อเก็งกำไรดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่า ชูไกจะได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าลิขสิทธิ์จากบริษัท อีไล ลิลลี่ แอนด์ โค (Eli Lilly and Co.) ของสหรัฐฯ หลังจากที่อีไล ลิลลี่ ประกาศผลการทดลองยาตัวใหม่ที่ประสบความสำเร็จด้วยดี
อนึ่ง ยาดังกล่าวชื่อ Orforglipron ได้รับการค้นพบโดยชูไก ก่อนจะขายสิทธิ์ต่อให้อีไล ลิลลี่ ในปี 2561