ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 699.57 จุด หลังพาวเวลเตือนภาษีทรัมป์ฉุดเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 17, 2025 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 700 จุดในวันพุธ (16 เม.ย.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนแอลงเนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่อินวิเดีย (Nvidia) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปไปยังประเทศจีน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,669.39 จุด ลดลง 699.57 จุด หรือ -1.73%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,275.70 จุด ลดลง 120.93 จุด หรือ -2.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,307.16 จุด ลดลง 516.01 จุด หรือ -3.07%

ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีร่วงลงหลังจากอินวิเดียเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจำกัดการส่งออกชิป AI รุ่น H20 ไปยังจีน ทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ในงบการเงินประจำไตรมาส ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 เม.ย.) เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 145%

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้น หลังจากพาวเวลกล่าวในงานเสวนาว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโก (Economic Club of Chicago) เมื่อวานนี้ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงเกินคาดนั้น อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นและจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง พร้อมระบุว่ามาตรการดังกล่าวของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบต่อภารกิจ Dual Mandate ของเฟด โดยภารกิจดังกล่าวคือการทำให้การจ้างงานขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%

อย่างไรก็ดี พาวเวลกล่าวว่า เฟดจะรอดูข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจ ก่อนที่จะตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนักถึง 3.94% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 2.69% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.80% โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

หุ้นอินวิเดียร่วงลง 6.8% หลังบริษัทเปิดเผยผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปไปยังประเทศจีน และได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงตามกัน โดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ร่วงลง 7.3% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ร่วงลง 2.4% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ร่วงลง 3.6% หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ร่วงลง 2% และหุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) ดิ่งลง 3.6%

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 8.37% ปิดที่ 32.64

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 40 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 38 แต่ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้างที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ อันเนื่องจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า

ทางด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองร่วงลง 8.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ