ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (17 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 34,212.29 จุด เพิ่มขึ้น 291.89 จุด หรือ +0.86% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,398.89 จุด เพิ่มขึ้น 341.91 จุด หรือ +1.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,282.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.82 จุด หรือ +0.21%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.68% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.57%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้พบปะกับคณะผู้แทนญี่ปุ่นที่กรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร โดยปธน.ทรัมป์ระบุว่า การพบปะหารือดังกล่าวเป็น "ความคืบหน้าครั้งใหญ่"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เรียวเซ อาคาซาวะ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้พบกับปธน.ทรัมป์ก่อนที่การเจรจาระดับรัฐมนตรีระหว่างสองประเทศจะเริ่มขึ้น โดยญี่ปุ่นพยายามขอให้สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีศุลกากร
ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.75% ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินวอน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยคณะกรรมการ BOK ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศอ่อนแอลงก็ตาม
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวขึ้น สวนทางกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 700 จุดในวันพุธ (16 เม.ย.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าอาจทำให้เฟดเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อและการกระตุ้นเศรษฐกิจ