ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 500 จุดในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ บริษัทแม่ของยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการทำสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่ตลาดจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) เนื่องในวัน Good Friday
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,132.86 จุด ลบ 536.53 จุด หรือ 1.35%
ราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ทรุดตัวลงกว่า 18% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2568
ขณะเดียวกัน ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความกังวลต่อผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นายพาวเวลระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรดังกล่าว ทำให้เฟดตกที่นั่งลำบากระหว่างการใช้นโยบายควบคุมเงินเฟ้อและการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเฟดจะรอความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะพิจารณาปรับจุดยืนด้านนโยบาย
ทั้งนี้ ภารกิจหลักสองประการของเฟดคือการรักษาเสถียรภาพของราคา และการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายทั้งสองประการของเฟด
"เราอาจพบว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ท้าทายที่พบว่าเป้าหมายทั้งสองประการของเราต่างได้รับผลกระทบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้มีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น และการขยายตัวจะลดลง แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเฟดจะให้ความสำคัญต่อเป้าหมายในด้านใดมากกว่า" นายพาวเวลกล่าววานนี้ในงานเสวนาว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโก (Economic Club of Chicago)
นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย แต่ระบุว่าเฟดจะรอความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะพิจารณาปรับจุดยืนด้านนโยบาย
นายพาวเวลตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขเงินเฟ้อระยะใกล้ทั้งจากการสำรวจและจากการอ้างอิงในตลาดต่างก็กำลังปรับตัวขึ้น แม้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวยังคงอยู่ใกล้กับเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งในปีที่แล้ว