ตลาดหุ้นอินโดนีเซียดิ่งหนัก 9% ส่วนค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ (8 เม.ย.) ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX) ต้องประกาศพักการซื้อขายชั่วคราว 30 นาที
แรงเทขายระลอกนี้เกิดขึ้นทันทีที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียกลับมาเปิดซื้อขายเป็นวันแรก หลังหยุดยาวมาตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. โดยนักลงทุนเทขายจากความกังวลต่อสถานการณ์ผันผวนในตลาดโลก โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการภาษีศุลกากรใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าจากอินโดนีเซีย
ในช่วงเปิดตลาด ดัชนีหุ้นหลักร่วงลงถึง 9.2% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564 ขณะที่เงินรูเปียห์อ่อนค่าลง 1.8% อยู่ที่ 16,850 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทุบสถิติเดิมในช่วงวิกฤตการเงินเอเชีย
ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียได้เตรียมรับมือสถานการณ์โดยปรับเกณฑ์การใช้มาตรการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) ไว้แล้ว โดยกำหนดให้พักการซื้อขาย 30 นาที หากดัชนีปรับลดลงถึง 8%
ตามเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ หากดัชนีร่วงลงถึง 15% จะมีการพักการซื้อขายอีก 30 นาที และหากร่วงแรงกว่า 20% จะระงับการซื้อขายไปตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ยังมีกฎห้ามส่งคำสั่งขายหุ้นรายตัวที่ราคาต่ำกว่าระดับที่หุ้นนั้นร่วงลงมาแล้ว 15% โดยระบบจะปฏิเสธอัตโนมัติ
อิมาน รัชมาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาและช่องทางในการประเมินข้อมูลและสภาพคล่อง หลังจากตลาดปิดไปนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ และเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ขณะที่เจฟฟรีย์ เฮนดริก ผู้บริหารอีกรายของตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียเสริมว่า กฎเกณฑ์เหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนกลับได้เมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปกติ
การปรับตัวลงอย่างรุนแรงของตลาดอินโดนีเซียครั้งนี้สะท้อนการตอบรับข่าวสารและความเคลื่อนไหวในตลาดโลกที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะประเด็นนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอินโดนีเซียบางรายการในอัตรา 32%