สว.สหรัฐเตือนตลาดหุ้นพังแน่ หาก "ทรัมป์" เขี่ย "พาวเวล" พ้นตำแหน่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 17, 2025 22:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์จากพรรคเดโมแครต ซึ่งถือเป็นบุคคลหนึ่งที่มักวิพากษ์วิจารณ์นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนในวันนี้ว่า ตลาดต่าง ๆ ในสหรัฐจะทรุดตัวลงอย่างหนัก หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง

"ดิฉันมักมีความขัดแย้งกับคุณพาวเวลเกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบและอัตราดอกเบี้ย แต่โปรดเข้าใจด้วยว่า หากท่านประธานพาวเวลสามารถถูกปลดออกโดยประธานาธิบดีสหรัฐ สิ่งนี้ก็จะทำให้ตลาดต่าง ๆ ในสหรัฐทรุดตัวลง" นางวอร์เรนกล่าวต่อสำนักข่าว CNBC

นางวอร์เรนกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้นายพาวเวลปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หากไม่สนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปธน.ทรัมป์ขู่ปลดนายพาวเวล และก่อนหน้านี้นายพาวเวลเคยกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีอำนาจในการปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2569

"มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 แต่นายเจอโรม พาวเวลของเฟด ซึ่งมักทำงานช้าเกินไปและผิดพลาด เมื่อวานนี้ได้ออกรายงานฉบับหนึ่งซึ่งไร้สาระโดยสิ้นเชิง เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันกำลังปรับตัวลง ราคาสินค้าในร้านชำ แม้แต่ไข่ไก่ ก็กำลังลดลง และสหรัฐอเมริกากำลังร่ำรวยขึ้นจากการจัดเก็บภาษีศุลกากร"

"นายพาวเวลลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป โดยเขาควรปรับลดมานานแล้วเหมือนกับ ECB และเขาควรลดดอกเบี้ยในขณะนี้ การปลดนายพาวเวลไม่สามารถรอได้อีกต่อไป!" ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social

ทั้งนี้ นายพาวเวลแสดงความกังวลวานนี้ต่อผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

นอกจากนี้ นายพาวเวลระบุว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรดังกล่าว ทำให้เฟดตกที่นั่งลำบากระหว่างการใช้นโยบายควบคุมเงินเฟ้อและการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเฟดจะรอความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ภารกิจหลักสองประการของเฟดคือการรักษาเสถียรภาพของราคา และการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายทั้งสองประการของเฟด

"เราอาจพบว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์ท้าทายที่พบว่าเป้าหมายทั้งสองประการของเราต่างได้รับผลกระทบ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้มีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น และการขยายตัวจะลดลง แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเฟดจะให้ความสำคัญต่อเป้าหมายในด้านใดมากกว่า" นายพาวเวลกล่าววานนี้ในงานเสวนาว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโก (Economic Club of Chicago)

นายพาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย แต่ระบุว่าเฟดจะรอความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะพิจารณาปรับจุดยืนด้านนโยบาย

นายพาวเวลตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขเงินเฟ้อระยะใกล้ทั้งจากการสำรวจและจากการอ้างอิงในตลาดต่างก็กำลังปรับตัวขึ้น แม้ว่าแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวยังคงอยู่ใกล้กับเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ชะลอลงในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งในปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ