พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9 - 15 เมษายน พ.ศ. 2568

ข่าวทั่วไป Wednesday April 9, 2025 15:44 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 9 - 15 เมษายน พ.ศ. 2568

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 10 ? 13 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 15 เมย. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีคลื่นลมแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 12 - 15 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง

ออกประกาศ 09 เมษายน 2568 12:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 9 ? 15 เมษายน พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 41 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 39 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 และ 15 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 40 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 14 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 18 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 37 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 41 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่

ลมใต้ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 39 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 10 ? 13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่

ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 10 ? 13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10 ? 12 เม.ย.

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14 ? 15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 10 ? 11 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 15 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 39 องศาเซลเซียส

ออกประกาศ 09 เมษายน 2568 12:00 น.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ