ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในพุธ (16 เม.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ในตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ +0.46% ปิดที่ 4.9175 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.00 เซนต์ หรือ +0.90% ปิดที่ 5.6100 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.27% ปิดที่ 10.3875 ดอลลาร์/บุชเชล
นอกจากปัจจัยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแล้ว สัญญาถั่วเหลืองยังปรับตัวขึ้นหลังมีรายงานล่าสุดจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันพุธที่ระบุว่า จีนซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของถั่วเหลืองสหรัฐฯ พร้อมเปิดโต๊ะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดได้ซึมซับปัจจัยลบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดยังคงเผชิญแรงกดดันจากผลผลิตถั่วเหลืองปริมาณมหาศาลจากอเมริกาใต้ และความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐฯ จากจีนก็ซบเซาอย่างหนัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าพืชผลจากสหรัฐฯ สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน สภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้การเพาะปลูกข้าวโพดล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาสัญญาข้าวโพด
ปริมาณน้ำฝนดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิในพื้นที่เดียวกันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ถูกหักล้างด้วยพยากรณ์อากาศที่คาดว่าจะมีฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อข้าวสาลีพันธุ์ Hard Red Winter ในเขตเกรตเพลนส์ของสหรัฐฯ